The Cathedral and the Bazaar

on วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เมื่อไม่กี่วันมานี้ผมได้อ่านบทความ The Cathedral and the Bazaar ซึ่งถูกเขียนไว้นานแล้วไม่แน่ใจน่าจะปี 2003-2007 โดย Eric S. Raymond ในบทความมีการเปรียบเทียบ การสร้างวิหาร (The Cathedral) เหมือนกับ การพัฒนาซอฟท์แวร์ด้วย Open Source โดยระหว่างที่พัฒนา ซอฟท์แวร์ขนาดใหญ่นั้น นักพัฒนาแต่ละที่ล้วนจะพัฒนาส่วนที่ตัวเองพัฒนา เรียกร้อง ตะโกนให้ผู้ร่วมพัฒนาจกที่อื่นๆ ให้เข้ามาทดสอบ หรือ เรียกร้องความสนใจให้แก่ส่วนที่ตัวเองพัฒนา เหมือนการพัฒนาระบบปฏิบัติการ Linux เป็นต้น คามเห็น เสียงสะท้อน คำแนะนำ การอธิบาย คำร้องขอ ต่างปรากฏวุ่นวายใน SVN เหมือนกับว่าทุกคนอยู่ใน ตลาดสด (The Barzaar) ซึ่งถามว่ามันวุ่นวายมั้ย? ก็ต้องตอบว่าวุ่นวาย แต่มันประสบความสำเร็จมั้ย? ก็ต้องตอบว่าประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดคิด



การแลกเปลี่ยนซึ่งองค์ความรู้เป็นสิ่งที่จะพัฒนาทุกสิ่ง ไม่ใช่แค่ในเรื่องของการพัฒนาซอฟท์แวร์

ในบทความมี Qoutes ประโยคที่โดนใจคือ
Good programmers know what to write. Great ones know what to rewrite (and reuse). [Eric S. Raymond,2003]
ถือว่าเป็นความหมายที่จะบอกถึงทุกอาชีพ ไม่เพียงแต่โปรแกรมเมอร์อาชีพเดียว คำว่าโปรแกรมเมอร์ เป็นเพียงนามธรรม และ เรื่องการพัฒนาซอฟท์แวร์ก็เป็นเพียงกรอกบ อัตลักษณ์ (identity) ที่ยกมาให้ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งจริงๆแล้วบทความนี้เป็นบทความที่เหมาะกับทุกสายงาน อย่างที่ใน Qoutes กล่าวถึงความหมายของมัน

การมีข้อมูล และองค์ความรู้มากมายไม่ใช่หัวใจหลักของการประกอบธุรกิจ และประกอบอาชีพ แต่ความสามารถที่จะวิเคราะห์ และนำความรู้มาใช้พัฒนาสิ่งใหม่ได้ต่างหากที่จะเป็นข้อได้เปรียบในชีวิต

หากสนใจอ่านบทความก็ Link ข้างล่างเลย
http://rfrost.people.si.umich.edu/courses/SI110/readings/IntellecProp/Cathedral-Bazaar.pdf

Decision Points - George W. Bush

on วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553


Decision Point ทำไม? บุชก็ยังได้เป็นประธานาธิบดี 2 สมัย ตลอดเวลาที่ยาวนานถึง 8 ปี ทั้งที่ คนทั่วอเมริกาและ ทั่วโลกเกือบ ล้านคน ต่างเกลียดบุชเข้าไส้ อะไรที่บุช มี และ มองเห็น การตัดสินใจครั้งสำคัญของบันทึกเหตุการณ์ ในประเทศอิรัก และ อัฟกานิสถาน หนังสือดี ซื้อติดบ้านไว้หน่อยก็ดีครับ

Animal Attack Movies รวมหนังสัตว์ขย้ำ หม่ำมนุษย์

on วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทำไมสัตว์ถึงอยากทำร้ายคนนักนะ คิดๆไปแล้วมีเหตุผลเป็นร้อย เลยล่ะ นี่เป็นแค่บางส่วนของการเอาคืนที่แม้จะน้อยนิด เทียบไม่ได้เลยกับการที่มนุษย์เราไปเข่นฆ่ามันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็คงจะพอใช้เป็นตัวอย่างเตือนสติเอาไว้บ้างว่า อย่าให้ถึงเวลาธรรมชาติลงโทษขึ้นมานะ เพราะถึงเวลานั้นแล้วจะหนาวไข่
ที่มาขอบขอบคุณ Youtube, Bloggamg และ คู่มือดูหนัง Starpics

หมวดสัตว์ปีก
นก: ภาพยนตร์เรื่อง The Birds (1983)



กำกับโดย อัลเฟรด ฮิทธ์ค็อก, จะเป็นยังไงถ้าจู่ นก ทั้งหลายในเมือง ทั้งอีกา นกนางนวล และ นกเล็กๆน้อย ต่างพากันหันมาจู่โจมผู้คน อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นแรงจูงใจตอนเริ่ม ว่ามีสาเหตุจากอะไร หนังไม่ได้บอกไว้ แต่มีคนมากมายถกเถิงเป็นเวลายาวนาน การจู่โจมคือ จิก ตี ทึ้ง โดยเฉพาะระวังลูกตาคุณไว้ให้ดี


ค้างคาว: ภาพยนตร์เรื่อง Bats (1999)

หากค้างคาวได้รับการตกแต่งพันธุกรรม แล้วดันหลุดไป ร้อนไปถึง นายอำเภอหนุ่ม กับ นักิทยาศาตร์สาว (แม่งต้องอาชีพนี้เกือบทุกเรื่อง) หาทางจัดการมัน ฉากเด็ด คือ ฝูงค้างคาว มาถล่มเมือง แต่ด้วยตัวหนังที่โคตรแย้ แย้มาก ไม่สมเหตุสมผล ทำให้หนังเรื่องนี้ดรอปๆไป หรือไม่มีอยากจะจำมัน แต่ก็ทำเงินในหลายประเทศในไทยก็ทำ จริงๆ หนังมันทำลง DVD แต่คนไทยจับมาลงโรงเลย หนังแย้ๆ แบบนี้ เลยเสือกมี ภาคต่อ Bats:Human Havest (2007) ออกมา ก็ใครชอบก็ดูกันไปนะ ขอตัวไปดู Batman The Dark Knight ก่อน


ฉลาม: ภาพยนตร์เรื่อง Jaws (1975)
โดย สตีเว่น สปิลเบิร์ก หนังในตำนานที่มีเสียงดนตรี สุดสะพรึงทำให้หลายๆคนที่ดูเรื่องนี้ไม่ไว้ใจปลาฉลามและไม่ลงน้ำ เรื่องราวของ นายตำรวจ ที่สืบว่าคนหายไปเรื่อยๆในรืมชายหาด ยื่นเรื่องไป แต่ นายกเทศมนตรี ไม่ยอมปิดหาด (อีกมุข ที่คลาสสิคมาก) ฉลามเลยได้ใจ เดือดร้อนพระเอกเราต้องลงเรือไปล่ามันกลางทะเล ทั้งเรื่องฝูกเรื่องดีหมด ยกเว้นตอนจบ ฉลามเสือกโง่งาบถังแก๊ส มีของให้งาบเยอะแยะไม่งาบซวยซะมึง


ภาพยนตร์เรื่อง Deep Blue Sea (1999)
หนังฉลามที่ถูกนักวิจัยเลี้ยงไว้เพื่อวิจัย หลุดออกไป แล้วกลับมาง่ำนักวิจัยเอง ตัวหนัง ไม่ได้ดีเด่นอะไร ความสมเหตุสมผลก็ไม่มากมาย รู้มั้ยว่าตอนจบเรื่องห่านี่ พะเอกรอด แต่นางเอกโดนฉลาม แด๊ก ตัวขาดครึ่งให้คนดู งง เล่น

ในหมวดของปลานั้นขอพักไว้แค่นี้ ปิรันย่า ทั้งเก่าใหม่ และ 3D ไปจนถึง เมก้าปิรันย่า

ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ หนังมันแย้เกินจะมารีวิว



ปลาหมึก: It Came From Beneath The Sea (19--)
หนังเก่าขาวดำ เกี่ยวกับปลาหมึกยัก แต่ถูกให้เป็นหนังในตำนาน แม้เทคนิคในยุคนั้น

ยังไม่ดีเด่นอะไรมาก สต๊อปโมชั่น แต่เชื่อเถอะครับพอดูใน youtube แล้วมัน สมเหตุสมผลจริงๆ

หนังเก่าดีๆ ควรเก็บไว้ในหอสมุด


Octopus (2000)
เปิดเรื่องมาเป็นสงครามเป็นหนังสงคราม แต่ เรือดำน้ำกลับไปเผชิญ กับหนวดปลาหมึก เกรดบี ตะกวดแย้ โคตรห่วย แต่อย่าว่าไป หนังแย้ๆแบบนี้เสือกมีภาคต่อ Octopus 2: River of Fear (2001) แล้วยัง เสือกจับปลาหมึกยักไปตีกับฉลามยักใน Mega Shark VS Giant Octopus (2009) ให้คอหนังเกรดบี ดูกันให้แย้ ทั้งครอบครัว


The Ghost and the Darkness (1996)
หนังดี ดูสนุกเรื่องหนึ่งในรอบหลายๆปี สร้างจากเรื่องจริง เรื่องราวของ วิศวกรหนุ่ม ที่ไปดูแลการสร้างทางรถไฟที่ เคนย่า แล้วปรากกว่า คนงานสร้างรถไฟ ต่างถูก ปิศาจในตำนาน คือสิงโต ฝาแฝด สองตัวนั้น ขัดขวางการสร้างรางรถไฟ

จนต้องมีการจ้างวาน นายพราน มือฉมัง มาจัดการ มัน ทีเด็ดของเรื่องคือ การออกล่า ของสิงโต มันออกล่าเป็นคู่

อีกทั้งการไล่ลาของ คนกับสิงโตในท้ายเรื่องลุ้นระทึกพอดี


ลิง: Congo (1995)
หาก King Kong คือลิงยักษ์ที่ อาละวาด ลองมาดูฝูงลิงโหดๆ รุมทึ้ง คนที่ไป ล่าสมบัติกันดีกว่า หนังเก่าแล้ว... แต่สร้างจากนิยายของ ไมเคิล ไครชตัน
ใครชอบดูลิงยกฝูง ฆ่าคนก็ไปดูซะ






จบ...







ความลับของยอดมนุษย์ฮีโร่ในอดีต

on วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ไอ้ตัวนี้มันคือ บารอมวัน...สมัยเด็กเราคงไม่ได้สนใจ มันนอกจากการต่อสู้และชุดเท่ๆ พอโตขึ้น รู้สึกว่า แม่ง... มันเป็นยอดมนุษย์ที่โชว์แมนพาวเวอร์มากๆ


อ่ะอีกรูป


ปล. ไข่ตุงเปรี๊ยะ

ขบวนการ 5 สีก็ใช่ย่อย

ไอ้สีแดง...แม่งกำลังทำอารมณ์เลย...

รูปสุดท้ายไอ้ เยลโล่ เรนเจอร์แม่งกำลังคิดไรอยู่วะ...


ปล. Note นี้แม่งเสื่อม และ กูก็ว่างเหี้ยๆ

ชีวิตคนไทยกับ Google

on วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เครื่องมือค้นหาหรือ Search Engine ชื่อดังๆอย่าง Google วันนึงมันอาจจะเป็นผู้ชี้ชะตามนุษยชาติก็เป็นได้ เอะอะก็ Google ก่อน แต่ก็นะบางที search engine ก็อาจจะเป้นได้ทั้งทางออกที่ดี และทางออกที่ม่ค่อยสู้ดี ซึ่งมันอยุ่ที่วิจารณญานของแต่ละคน


คนไทย 2 ล้านกว่าคน เบื่อชิวิต ทำให้รู้ว่ามีคนที่เป็นโรคซึมเศร้า และ คนที่เซ็งชีวิต ไปจนถึงคนที่พยายามจะฆ่าตัวตายแต่คงคิดหาทางออก หรือวิธีฆ่าตัวตายที่ไม่จำเจไม่ออกเลยพยายามจะ Search เพื่อหาคำปรึกษาที่ดี

คนไทยกว่า 4 ล้านคนในอัตราถัวเฉลี่ยกันนั้น ...เบื่อแฟนและเบื่อความรัก คาดว่าน่าจะเป็นวัยรุ่น
คนไทยผู้ชาย 3 แสนกว่าคนที่แต่งงานไปแล้ว เบื่อเมีย
ที่แน่ๆฝ่ายหญิง 7 แสนกว่าคนเบื่อสามี

และที่แน่ๆ คนไทยเบื่ออาหาร 2 ล้านกว่าคนแหนะ

แต่ที่แน่ๆ การค้นหา Keyword ดังภาพด้านล่างนี้ Google ไม่สามารถค้นหาเจอ


Heart and Calculus

on วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Heart Method by a man of computation theory. วันนี้ไปเรียนวิชา Data Communication หูฟัง อ.บรรยาย แต่กลับนั่งอ่านและวิเคราะห์เรื่องของ Structure และ MIS ปนกันไปสะดุดเจ้าคำว่า Cardioid ในเปเปอร์นึงเข้า กลับบ้านมาด้วยความที่ว่า ศึกษาด้าน Formal Method การปรูฟทุกกฏให้เป็นตัวเลขและแก้ปัญหา เลยเอามา ปรูพเล่นอยากรู้ว่า กฏของ Cardioid ทรงประหลาดมันม้วนกราฟยังไงลองเอามาปรูฟดู


เฮ้ย คำนวณพลาด!!!

แต่ความผิดพลาดก็มีประโยชน์ทำให้ผมได้ กราฟรูปทรงนึง เลยเอากฏไป ค้นหาใน Google ดูมันทำให้ผมรู้ว่า การใช้ Linear Algibre มาปรูฟมันไม่ได้กฏของ Cardioid แต่มันได้ กราฟชุดลักษณะคล้ายกันแต่คนละเอกลักษณ์ (ญาติๆกัน) มันคือ Heart Graph Curve

มันมีลักษณะยังไง เหรอครับ มาดูกัน

1 สร้างกราฟจากสมการ
f(x)=sin(x), 0<x></x>
2 ผลิกแกน x และ y ของกราฟไปทางซ้าย 90° องศา
3 ตีสมการเดิมแต่เปลี่ยนค่า mod ให้เกิด Mirror
4 คาดเส้นคั่นของ Edge ของกราฟ แล้ว ใช้ Frequency Node มากำกับ...ได้หัวใจหนึ่งดวง

อีกวิธีที่ลองใช้ Linear Algebre หรือ พัชคณิตเชิงเส้นมา ปรูพ ดูจะได้หัวใจที่อิ่มเอิบ
(x²+y²-1)²-x²y³=0

อีกวิธีที่ลองใช้ Linear Algebre หรือ พัชคณิตเชิงเส้นมา ปรูพ ดูจะได้หัวใจที่อิ่มเอิบ
(x²+y²-1)²-x²y³=0



E-Milick, Elements d'Algebre Ornementale



ลองไปหาสมการของคนอื่นดู
y=(x)^(2/3)+(a²-x²)^(1/2) and y=x^(2/3)-(a²-x²)^(1/2) and a=2
เทพมาก มีกฏเปรียบเทียบของ สมการสามตัว มาอินทรีเกรตกัน ของนาย E-Milick, Elements d'Algebre Ornamental, Paris, 1936

ที่เอามาให้อ่านกันไม่ใช่ โชว์พาว การวาดกราฟหัวใจหรอกครับ แต่ที่เอามาให้ดูกัน เพื่อจะให้ดูเป็นอุปมาอุปมัย ให้ทราบไว้ว่า เรื่องของ...หัวใจ...มันเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก ไม่ได้ง่ายเลย


The Shining: นอกเรื่องจากนิยาย จากผี กลายเป็น วิปริต

on วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Stephen King ทุกเล่มที่ อ่านทั้งบางเล่มที่มีคนแปลและบางเล่มที่ต้องนั่งแปลเองนั้น ล้วนแต่สร้างความสยองจากเนื้อเรื่องและบรรยากาศที่บรรยาย แม้ว่าบางเล่มและบางเรื่องนั้นแทบก็ไม่ใช่เรื่องผี แต่สิ่งที่ King เสนอให้รู้สึกนั้นคือ สยองจากความรู้สึกในเบื้องลึกของจิตใจคน


ไม่นานนักในผลงานหนังชุุดของ Stanley Kubrick เจ้าพ่อหนังปรัชญา ก็ได้หยิบนิยายเรื่องนี้มาสร้างเป็นภาพยนต์แต่ทว่าเนื้อเรื่องที่ อ่านนั้น แตกต่างกัน...โดยส่วนตัวไม่ถึงกับแย่หรอกครับออกจะดีเลยแหละแต่ดีในอีกแบบ [เปรียบเทียบเหมือนกับว่าคุณชอบกินข้าวมันไก่ แต่วันนึงเค้าเสิร์ฟผิดเค้าเสิร์ฟข้าวหมกไก่มาให้คุณลองกินดูก็ อร่อยนี่หว่า ประมาณนั้น]

เรื่องมีอยู่ว่า พ่อ แม่ ลูก 3 คน โดยมี แจ็ค ทอร์เรนซ์ ผู้เป็นพ่อที่มีอาการติดเหล้าและมีประวัติทำร้ายลูกชาย ได้รับงานไปเฝ้าโรงแรมโอเวอร์ลุคตอนมันปิดภาคฤดูหนาว เพราะหน้าหนาวโรงแรมนั้นจะถูกกลบทางเข้าด้วยหิมะ ทำให้ไม่มีแขก 3 คนพ่อแม่ลูกเลยอาศัยไปรับค่าจ้างเฝ้า และเรื่องราวสยองที่ปรากฏในโรงแรมนั้นก็เกิดขึ้น


อาจจะเพราะผีที่อยู่ในโรงแรม หรือ ตัวแจ็คผู้เป็นพ่อเองที่ทำให้เกิด อาการวิกลจริต ได้ยินเสียงกระซิบให้ ฆ่าลูกชายตัวเอง เรื่องสยองจึงได้บังเกิดเมื่อ ตลอดเวลาทั้งเรื่องหลังจากเข้ามาดรงแรมนั้น คือฉากการไล่ล่าของพ่อ และแากการวิ่งกระเต็งลูกหนีของเมียหรือ ผู้เป็นแม่


ภาพข้างบนผีที่ปรากฏในความคิดของแจ็ค และเรื่องราวก็ไปสู่บทสรุปอันน่าขนลุก ในฉากจบหลอนๆบนรูปถ่ายข้างห้องของโรงแรม

ส่วนตัวแล้วภาพยนต์เรื่องนี้ทำได้ดีในเรื่องควมกดดันของอารมณ์คนดู แม้จะมีนักแสดงน้อยมากๆ และไม่มีฉากสยองแหวะเลือดสาดเลย อีกทั้งบรรยากาศในโรงแรมออกจะสว่างซะด้วยซ้ำแต่ก็ยังทำให้เราผวา ไปกับผู้เป็นพ่อกับฉากคลาสสิคเดินหิ้วขวาน เอ่ยเสียงเรียกลูกชาย



และผี ? ในหนังที่สั่งให้แจ็คทำนั้น มันคือผีจริงๆหรือเปล่า... หนังให้เราคิดเป็นคำตอบเหมือนจะเป้นปรัชญาว่าบางครั้งที่คนเราทำอะไรพลาดไป ไม่ใช่มัวแต่โทษผีสางนางไม้ ดูที่ตัวเราซะก่อน เพราะอาการวิกลจริตของแจ็ค อาจจะเปรียบได้กับ "สติ" หากไม่มีสติแล้วทำอะไรลงไปก็ไม่สามารถแก้ไขกลับคืนได้